นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์
ชุด “สินในสายน้ำ”
ณ โถงนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์
วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ – ๗ กันยายน ๒๕๕๗
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขอเชิญชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์” ชุด “ สินในสายน้ำ ” ภายในอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ ๗ สิงหาคม – ๗ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผลสำเร็จของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งทะเล การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและการพัฒนาตลอดจนสร้างอาชีพให้ราษฎรอันจะก่อให้เกิดความสำนึก หวงแหน และช่วยกันรักษาทรัพยากรในสายน้ำของแผ่นดิน โดยนิทรรศการ แบ่งออกเป็น ๘ ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ ๑ แรงบันดาลพระราชหฤทัย
จุดกำเนิดที่ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงรักทรงหวงแหนธรรมชาติและสายน้ำของแผ่นดินไทย แผ่นดินซึ่งในเวลาต่อมาได้ทรงผูกพันไว้ด้วยพระราชภาระหน้าที่และพระราชปณิธานที่ทรงยึดมั่นมาโดยตลอด ทรงฟื้นฟูให้สินในสายน้ำของแผ่นดินตั้งแต่ภูเขาจนท้องทะเล กลับคืนมาเลี้ยงลูกหลานไทย เปรียบสายน้ำพระราชหฤหัยคือสายน้ำแห่งความผูกพันไม่สิ้นสุด
ส่วนที่ ๒ จากยอดดอย
น้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกภูมิภาค และนับเป็นสายพระเนตรที่ยาวไกล ที่ได้สร้างความสุขให้แก่ราษฎรและผืนแผ่นดินไทยให้บังเกิดความยั่งยืนโดยทั่วกัน ในการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพาะเลี้ยงปลาเรนโบว์เทราต์ และปลาสเตอเจี้ยน เพื่อขยาย ผลสู่การเพาะเลี้ยงของราษฎรและสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติทำให้ประชาชนคนไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงโดยไม่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ พบกับปลาเรนโบว์เทราต์จากดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และ ผลิตภัณฑ์ในงาน
ส่วนที่ ๓ “ กุ้งสมเด็จ”
เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕ ได้มีพระราชดำริให้สมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบางไทรศึกษาการเลี้ยงและเพาะพันธุ์กุ้งก้ามกราม พันธุ์กุ้งในกลุ่มที่คนไทยรู้จักในชื่อกุ้งนาง กุ้งหลวง เพื่อให้ราษฎรได้มีอาชีพเสริม จากนั้น ทรงรับซื้อลูกกุ้งและทรงปล่อยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา นับเป็นบทเริ่มต้นของการทรงฟื้นฟูให้แม่น้ำเจ้าพระยากลับมาอุดมด้วยกุ้งก้ามกราม ต่อมา กรมประมงและหน่วยงานจังหวัดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ร่วมกันสนองพระราชดำริเพาะพันธุ์และปล่อยลูกกุ้งลงสู่แม่น้ำอย่างต่อเนื่องจนนับปัจจุบัน ทำให้สินในน้ำที่ชาวบ้านเรียกกันว่ากุ้งสมเด็จนี้ได้คืนมาให้คนไทยได้บริโภคและเป็นอาชีพเลี้ยงชีวิต
ส่วนที่ ๔ “ปลาไทยหายไปไหนหมด ”
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงผูกพันกับสายน้ำเจ้าพระยา ทรงห่วงใยปัญหาการสูญเสียปลาสำหรับบริโภค จากพระราชปรารภเป็นคำถามว่า “ปลาไทยหายไปไหนหมด” จึงมีพระราชดำริให้กรมประมงฟื้นฟูปลาไทยกลับมามีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะปลาไทยตามกาพย์เห่เรือชมปลาของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ ทั้ง ๑๗ ชนิด ในส่วนนี้จึงเป็นการจัดแสดงพันธุ์ปลา (ยกเว้นปลาหวีเกศซึ่งสูญพันธุ์) พร้อมทั้งฟังกาพย์เห่เรือชมปลา
ส่วนที่ ๕ “ฟาร์มทะเลตัวอย่าง”
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับทะเลและปัญหาสัตว์น้ำในท้องทะเลหายากเข้าทุกวัน จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างฯ ขึ้นในพื้นที่ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๕๑ มีรูปแบบที่เน้นการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างครบวงจรไม่ให้มีมลพิษ ของเสียทิ้งลงสู่ทะเลเลย ทั้งยังเป็นฟาร์มตัวอย่างการจ้างงาน สร้างอาชีพให้ราษฎร พร้อมทั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา ชนิดต่างๆ ที่ให้ผลผลิตดี ไม่ทำลายท้องทะเล มีกิจกรรมตัวอย่างเช่น การเลี้ยงไรทะเล (Artimia) เพื่อเป็นอาหารสัตว์น้ำชนิดต่างๆ การทำน้ำทะเลผงเพื่อใช้กับอะควาเรียมและตู้เลี้ยงปลา ปัจจุบันแม้จะตั้งโครงการมาประมาณไม่กี่ปี ผลสัมฤทธิ์เห็นได้ชัด สัตว์น้ำต่างๆ ที่หายไปกลับคืนมา ชาวบ้านกลับมามีอาชีพประมงชายฝั่งได้อีกครั้ง ในส่วนนี้เป็นการจำลองพื้นที่ฟาร์มทะเล จาก จังหวัดเพชรบุรี มาประกอบการอธิบายถึงการแบ่งพื้นที่ในโครงการฯ อย่างชัดเจน พบกับสัตว์น้ำและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์น้ำทะเลผงในงาน
ส่วนที่ ๖ “โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่เกาะมันใน อำเภอแกลง จังหวัด ระยอง”
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยเต่าทะเล ด้วยทรงตระหนักว่าทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของไทย นับวันมีแต่จะลดน้อยลง มีสัตว์หลายชนิดที่ใกล้จะสูญพันธุ์ โดยเฉพาะเต่าทะเล เนื่องจากราษฎรนิยมเก็บไข่เต่าทะเลไปซื้อขาย เพื่อประกอบอาหาร จึงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล นับแต่ดำเนินมาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๒๒ ตราบจนปัจจุบัน ความสัมฤทธิ์ผลได้ก่อเกิดความหวังในการอนุรักษ์เต่าทะเลให้คงอยู่คู่ทะเลไทยต่อไป ในส่วนนี้นำเสนอข้อมูลผ่านบอร์ดนิทรรศการ และมีการจัดแสดงไข่เต่าและเต่าทะเลสต๊าฟ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ.แกลง จ.ระยอง
ส่วนที่ ๗ “ปะการังเทียม บ้านของปลาในทะเล”
“โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ซึ่งเริ่มต้นขึ้น ในปี พ.ศ ๒๕๔๔ นั้น ปัจจุบันพบว่าปลาชนิดต่างๆ และสัตว์น้ำจำนวนมากเข้ามาอาศัยปะการังเทียมเป็นแหล่ง พักพิงและขยายพันธุ์ ส่งผลให้ราษฎรที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านสามารถใช้เรือกอและออกไปหาปลาได้ตามปกติโดยไม่ต้องเสี่ยงภัยออกไปทะเลน้ำลึก ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและความสุขได้กลับคืนสู่ชีวิตพวกเขาอีกครั้ง ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงช่วยให้เกิดการฟื้นฟูท้องทะเลด้วยแนวปะการังเทียม ทำให้หน่วยราชการและชาวประมงเกิดการรวมตัวกันสานต่อพระราชดำริด้วยการนำตู้รถไฟ รถถัง รถขยะ รวมถึงชาวบ้านได้ช่วยกันทำซั้ง อันเป็นอุปกรณ์ธรรมชาติตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้านและปล่อยลงสู่ทะเลให้เป็นที่พักอาศัยของสัตว์ทะเล ในส่วนนี้นำเสนอข้อมูลผ่านบอร์ดนิทรรศการ จัดแสดงเรือกอและ การจำลองปะการังเทียมเสมือนท่านอยู่ใต้ท้องทะเล
ส่วนที่ ๘ “Mini Theater”
จัดฉายภาพยนตร์สั้นเรื่อง The Sea ซึ่ง เป็นเรื่องราวของนักศึกษาลูกครึ่งไทย – ออสเตรเลีย เดินทางตามเพื่อนกลับมาพักฤดูร้อนที่หมู่บ้านของเพื่อน ซึ่งเป็นหมู่บ้านประมง ที่ บ้านละเวง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เขาและเพื่อนก็ได้ค้นพบความจริงว่า ทำไมชายฝั่งทะเลบริเวณนี้จึงกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง พวกเขาได้ดำน้ำลงไปพบปะการังเทียม ซึ่งคือซากรถไฟและตู้สินค้าเก่าๆ ซึ่งด้วยพระราชดำริและพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พวกปลาต่างๆได้มีปะการังเทียมเหล่านี้เป็นบ้านพัก แหล่งอนุบาลตัวอ่อน จนปลาชนิดต่างๆกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง